MiTR-OF-Test
1. Principle of test
When red blood cell is in 0.85% NaCI(salt solution), it remains normal biconcave shape because the water inside cell is equal to that outside. When decreasing the concentration of salt solution, the water outside the cell is more than the inside and will cause water flow into the cell. The cell will expand until it break at some concentration. This is called Osmotic Fragility. Whether the red blood cell is increased in osmotic fragility or decreased in osmotic fragility, it depends on the ratio between surface area of red blood cell and the concentration of the inside of cell which is Hemoglobin. The higher the ratio, the harder the red blood cell break. For example , target cell and hypochromic cell is hard to break. While spherocyte is more fragile. From a study, a scientist found that in specific concentration of salt solution, all normal red blood cell will break but red blood cell of thalassemia patient will not break. MiTR-OF-Test use this knowledge to screen for thalassemia especially the carriers.
2. Materials
Test kit 100 tubes , 2 ml each
3. Preparation
1. MiTR-OF-Test use EDTA whole blood, can keep in 2-8 oC for 3 days
2. should not keep whole blood by freezing
4. Caution
1. should keep MiTR-OF-Test at 2-30 oC
2. should keep MiTR-OF-Test in dry place and away from heat
3. should not use expired product
5. Warning
1. MiTR-OF-Test is used for screening
2. Do not eat food or smoke while testing
3. Wear glove, and safety gown before testing and wash hands after testing
4. Clean the equipment and perimeter with antiseptic
5. Read the manual thoroughly before use
6. Be careful when handling blood sample
7. Put tested materials into proper place
6. Method
1. Pour 10 uL of EDTA whole blood into test tube
2. Mix well and leave at room temperature for 15-30 minutes
3. interpret
Note : Standard test tube that has red cap is used for QC for volume and concentration of MiTR – OF – Test.
7. Interpretation
Negative : clear solution in test tube (can see the text clearly)
Positive : opaque solution in test tube (cannot see the text clearly)
8. Limitation
- MiTR-OF-Test is a screening test. For definite diagnosis, further investigation or confirmation test such as Hb Typing should be considered.
- In case of Anemia such as Iron deficiency anemia that is severe ( Hb less than 7 g%) , the sample blood volume can be increased to 20 µl
***********************************************************************************************************************
MiTR-OF-Test
ชุดตรวจหาความเปราะบางของเม็ดเลือดแดง
1. หลักการทดสอบของชุดตรวจ
เม็ดเลือดแดงปกติเมื่ออยู่ในน้ำเกลือความเข้มข้นร้อยละ 0.85 (0.85% NaCI) จะคงสภาพปกติ (biconcave) ไว้ได้ เนื่องจากน้ำภายในเซลล์ เท่ากับน้ำภายนอกเซลล์ แต่ถ้าลดความเข้มข้นของน้ำเกลือลงน้ำนอกเซลล์จะมากกว่าในเซลล์ น้ำจะแพร่เข้าเซลล์ เซลล์จะค่อย ๆ บวมขึ้นและเมื่อลดความเข้มข้นของเกลือจนถึงระดับหนึ่ง น้ำจะซึมเข้าเซลล์จนเม็ดเลือดแดงแตก เม็ดเลือดแดงจะแตกง่าย (increased osmotic fragility) หรือแตกยาก (decreased osmotic fragility) ขึ้นอยู่กับอัตราส่วนของพื้นที่ผนังเซลล์ต่อความเข้มข้นของสารภายในเซลล์ซึ่งส่วนใหญ่คือ ฮีโมโกลบิน โดยในภาวะใดก็ตามที่ทำให้เม็ดเลือดแดงมีอัตราส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้น เม็ดเลือดแดงก็จะแตกยาก เช่น target cell, hypochromic cell ตรงข้ามกับ spherocyte ซึ่งแตกง่าย เนื่องจากมีอัตราส่วนดังกล่าวลดลง จากการศึกษาของ Kattamis C. และคณะพบว่าความเข้มข้นของน้ำเกลือที่เหมาะสมที่สภาวะหนึ่ง เม็ดเลือดแดงของคนปกติจะแตกหมด แต่เม็ดเลือดแดงผู้ป่วยธาลัสซีเมียและผู้ป่วยที่เป็นพาหะจะยังแตกไม่หมด จึงได้นำเอาน้ำเกลือที่ความเข้มข้นดังกล่าว พร้อมกับการต่อยอดทางการวิจัยด้วยทีมวิจัยของบริษัทจึงได้สูตรน้ำยาใหม่ MiTR-OF-Test นี้มาใช้ในการตรวจกรองเพื่อวินิจฉัยธาลัสซีเมีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะมีประโยชน์ในการสำรวจหาผู้ที่เป็นพาหะเพื่อควบคุมและป้องกันโรคธาลัสซีเมีย อย่างไรก็ตามภาวะอื่นที่เม็ดเลือดแดงมี hypochromia ก็จะให้ผลเช่นเดียวกัน เช่น ในโรคโลหิตจางที่เกิดจากการขาดเหล็ก เป็นต้น
2. อุปกรณ์ที่จัดไว้ในชุดทดสอบ
ชุดน้ำยาทดสอบ จำนวน 100 หลอด ปริมาตรหลอดละ 2 มิลลิลิตร
3. การเตรียมตัวอย่างเลือด
1. ชุดตรวจหาความเปราะบางของเม็ดเลือดแดง (MiTR-OF-Test) ใช้เลือดครบส่วน (whole blood) ที่เก็บจากการเจาะเส้นเลือดดำที่ใส่สารกันเลือดแข็งชนิดอีดีทีเอ (EDTA) หากไม่สามารถทดสอบได้ควรเก็บที่อุณหภูมิ 2-8 oC ได้นาน 3 วัน
2. ไม่ควรเก็บตัวอย่างที่เป็นเลือดครบส่วน (whole blood) โดยการแช่แข็ง
4. ข้อควรระวัง
1. ควรเก็บชุดตรวจหาความเปราะบางของเม็ดเลือดแดง (MiTR-OF-Test) ไว้ที่อุณหภูมิ 2-30 oC
2. ควรเก็บชุดตรวจหาความเปราะบางของเม็ดเลือดแดง (MiTR-OF-Test) ให้พ้นบริเวณที่มีความชื้นและความร้อนสูง
3. ไม่ควรใช้ชุดทดสอบที่หมดอายุแล้ว
5. คำเตือน
1. ชุดตรวจหาความเปราะบางของเม็ดเลือดแดง (MiTR-OF-Test) ใช้สำหรับการตรวจคัดกรองวินิจฉัยโรคเท่านั้น
2. ห้ามรับประทานอาหาร เครื่องดื่ม หรือสูบบุหรี่ ในขณะการทดสอบและเก็บตัวอย่างเลือด
3. สวมถุงมือ เสื้อกันเปื้อนเมื่อสัมผัสตัวอย่าง และล้างมือให้สะอาดหลังการทดสอบ
4. ทำความสะอาดอุปกรณ์ และบริเวณทดสอบด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
5. อ่านใบกำกับเครื่องมือแพทย์อย่างละเอียดรอบคอบก่อนการใช้งาน
6. ระมัดระวังการสัมผัสตัวอย่างเลือด เสมือนว่าเลือดนั้นมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ
7.ทิ้งชุดทดสอบที่ใช้แล้วในที่ที่เหมาะสมเสมือนว่ามีสารปนเปื้อนที่ทำให้ติดเชื้อ
6. วิธีทดสอบ
1. ใส่ตัวอย่างเลือดครบส่วนที่มีสารกันเลือดแข็งชนิดอีดีทีเอ (EDTA) ลงในหลอดทดลอง ปริมาตร 10 ไมโครลิตร
2. ผสมตัวอย่างเลือดและน้ำยาให้เข้ากัน ตั้งทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง 15-30 นาที
3. เมื่อครบเวลา อ่านผลการทดสอบ
หมายเหตุ : “หลอดมาตรฐาน จุกสีแดง” ใช้เป็นหลอดควบคุมคุณภาพใช้ตรวจสอบปริมาตร และการคงไว้ซึ่งความเข้มข้นของสูตรน้ำยา
7. การแปลผลการทดสอบ
ผลลบ ( Negative ) : หลอดมีสารละลายใสโดย (เมื่อส่องผ่านตัวหนังสืออ่านชัดเจน)
ผลบวก ( Positive ) : หลอดมีสารละลายขุ่นโดย (เมื่อส่องผ่านตัวหนังสือไม่ชัดเจน)
8. ข้อจำกัดของชุดทดสอบ
- ชุดตรวจหาความเปราะบางของเม็ดเลือดแดง (MiTR-OF-Test) เป็นการตรวจคัดกรองเบื้องต้นในการวินิจฉัยโรคธาลัส-
ซีเมีย ควรตรวจยืนยันการวินิจฉัย (confirmation test) ด้วย Hb Typing ต่อไป ก่อนการตัดสินใจทางการแพทย์
- กรณีตัวอย่างมีเลือด Anemia, Iron def. และภาวะซีดมาก (ค่า Hb น้อยกว่า 7 g%) สามารถเพิ่มปริมาณเลือดเป็น 20 µl ได้